เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ออกท่องเมืองกรุง
ตอนเช้าไปฟังการอภิปรายทางวิชาการ "หลากมิติกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ได้ฟังแค่ช่วงครึ่งเช้า คือเรื่องของผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ตกใจกับความเงียบของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางครั้งเราไม่อาจทราบได้ว่ามีผู้ถูกจับกุมด้วยข้อหาทำนองนี้
ต่อมาก็ไปงานคอมมาร์ท ไม่ได้อะไรตามเคย อีหนูเครื่องที่ใช้พิมพ์อยู่นี่ก็ยังทำงานได้ดีอยู่น่ะ
เสร็จแล้วก็กลับมาที่หอศิลป์กรุงเทพฯ มางาน "การเมืองในมิติกวีนิพนธ์"
เป็นการอ่านบทกวี (ที่แต่งไว้แล้ว) สด ๆ ต่อหน้าผู้ชมโดยผู้แต่งเอง ไม่เคยดูอะไรประเภทนี้มาก่อน ประทับใจสุด ๆ ตลอดงาน
ดูคลิปการอ่านบทกวีได้ที่นี่
ที่ประทับใจมากที่สุดคงจะเป็น ไม้หนึ่ง ก. กุนที กับ กฤช เหลือลมัย อาจเป็นเพราะเป็นเรื่องใกล้ ๆ ตัวเกี่ยวกับบ้านเมือง บทกวีที่มีเนื้อหาเป็นนามธรรม (เช่น กลศาสตร์ควอนตัม โดยอุเทน มหามิตร) นั้นผมเข้าไม่ค่อยถึง (ไม่ได้ดูสด ออกมาคุยกับเพื่อนอยู่ แต่ตามอ่านทีหลัง)
ปิดท้ายงานด้วยปาฐกถาตามจาก ส. ศิวรักษ์ (ผมฟังได้ใจความว่า) เป็นเรื่องของระบบชนชั้นที่ผู้ปกครองมีความคุณธรรมที่มีข้อดีเหนือกว่าประชาธิปไตย โดยเอ่ยถึง เชอเกียม ตรุงปะ (Chögyam Trungpa) เป็นหลัก น่าสนใจมาก ติดอยู่ที่ผมยังไม่ค่อยจะเชื่อว่าจะมีศาสนาไหน แม้แต่พุทธ ที่จะเป็นความจริงแท้ แต่ความคิดของผมเองก็ยังไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่ (ทั้งเรื่องศาสนาและระบอบการปกครอง) ก็เลยเน้นฟังไว้ก่อน
ง่วงแล้ว ตัดจบแค่นี้ก็แล้วกัน