rant

ภาษาวิบัติ

พอดีมีเห็นคนทวีตเรื่องการใช้ภาษาวิบัติ บน Hi5 อ่านดูก็เป็นการบ่นปนก่นด่าคนที่ไม่ใช้การสะกดคำตามพจนานุกรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมสงสัยมาระยะหนึ่งแล้วว่า จะเป็นห่วงอะไรกันนักหนาวะ

ผมเข้าใจว่าภาษามันจะถูกใช้งานก็เมื่อมีคนเข้าใจมัน ถ้าเราบังเอิญไปเห็นการใช้ภาษาแล้วพบว่าตนเองไม่สามารถเข้าใจหรือต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติในการทำความเข้าใจ มันก็คงสรุปได้ง่าย ๆ ว่าเราไม่ใช่คนที่เขาต้องการจะสื่อสารด้วย

แล้วก็มาโวยวายกัน ช่างเป็นความพยายามที่น่าทึ่ง

มักจะเจอความเห็นแบบ "มึงเขียนไว้อ่านเองคนเดียวใช่มั้ย" แล้วก็ด่าผสมว่า "ปัญญาอ่อน" บ้าง "น่าไปเกิดใหม่" บ้าง "พ่อแม่ไม่สั่งสอน" บ้าง

อืม เข้าใจถูกแล้วครับ เขาเขียนไว้อ่านกับเพื่อนไง เข้าไปอ่านเอง อ่านไม่ออกเอง แล้วก็ด่า พาล

การปิดกั้นคลิปศาลอย่าง (พยายาม) เนียนของ True

[อัปเดต 15.10 น. 10 พ.ย.] พอดีมีโอกาสใช้อินเทอร์เน็ตของ 3BB พบว่าเจ้านี้ไม่ปิดกั้นนะ [อัปเดต 11.35 น. 10 พ.ย.] เขียนบล็อกนี้เมื่อคืน ตื่นเช้า (เที่ยง!) มา True จัดให้แล้ว ตอนนี้หน้าคลิป เด้งไป http://w3.mict.go.th แล้ว ซึ่งก็เป็น URL ที่ไม่มีหน้าเว็บอะไร ไม่มีข้อมูลอะไรเหมือนเดิม ทำได้แค่โบ้ยไปว่ากระทรวงไอซีทีสั่ง

ถึงวันนี้ แม้บางคนอาจจะยังไม่ได้ดูด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ผู้ที่มีเวลาพอและสนใจติดตามข่าวสารบ้านเมืองก็คงทราบกันดีแล้วว่า มีคนที่ใช้ชื่อ ohmygod3009 ใน YouTube เผยแพร่วิดีโอคลิปที่ปรากฏภาพคนหน้าตาคล้ายและเสียงคล้ายบุคลากรศาลรัฐธรรมนูญ พูดเรื่องการเตรียมการในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และเรื่องการโกงการสอบเข้าเป็นข้าราชการตุลาการ

เรื่องเนื้อหาในวิดีโอคลิปนั้นไม่ใช่ประเด็นของบล็อกตอนนี้ ประเด็นก็คือ มีความพยายามในการปิดกั้นการดูวิดีโอคลิปพวกนี้แล้วโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายรายด้วยกัน ซึ่งก็ใช้อำนาจอะไรก็ไม่รู้ (อำนาจกู?) เพราะกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารก็พูดในข่าวเองว่ายังไม่ได้ขออำนาจศาล อย่างไรก็ตาม ลองมาดูว่าเขา "บล็อคคลิป" กันอย่างไร

เริ่มจาก TOT ก่อน ผมยังไม่ได้ลองเองแต่ข่าวเขาว่าจากหน้า YouTube นั้นมันจะเปลี่ยนไปเป็นหน้า "This website has been blocked by ICT" พร้อมอ้างอำนาจ ศอฉ. ซึ่งก็ไม่ทราบว่าคลิปนี้เกี่ยวอะไรกับสถานการณ์ฉุกเฉินเหมือนกัน

กรณีนี้ เข้าใจว่า TOT ปิดกั้นที่ URL ของหน้านั้น (อาจจะใช้ HTTP 302 Moved Temporarily ส่งต่อไปหน้าอื่น) ทำให้ถ้าเข้าผ่านหน้าอื่นของ YouTube แต่เป็นวิดีโอเดียวกัน เช่น อันที่ถูกแปะใน Facebook ก็น่าจะดูได้

ผมเองใช้บริการของ True ซึ่งที่ผ่านมาก็เปิดหน้าคลิปนั้นได้ตลอด (แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว - ดูหมายเหตุข้างบน) เนื่องจากใช้ Flashblock ไม่ให้พวก flash หรือวิดีโอมันเริ่มเล่นโดยอัตโนมัติ ก็เลยคิดว่าไม่ได้มีการปิดกั้นอะไร

จนวันนี้ลองคลิกดูคลิป ก็พบว่ามันกลายเป็นภาพข้อความ "This video has been removed due to term of use violation" ไปเสียฉิบ

ข้อความการปิดกั้น

เผลอคิดไปแวบนึงว่า โอว YouTube เอาออกเรอะ แต่พอดูอีกที ถ้ามันจะเป็นการเอาออกโดย YouTube มันน่าจะเป็นข้อความธรรมดามากกว่า ไม่ใช่วิดีโอภาพนิ่งความละเอียดห่วย ๆ อัตราส่วนเพี้ยน ๆ แบบนี้ พอลองใช้ proxy เข้าดู ก็พบว่าดูได้ปกติ

แปลว่าโดนปิดกั้นเข้าให้แล้ว

ลองมาดูว่าหน้าเว็บของคลิปนี้มันโหลดอะไรมาบ้าง

ภาพจาก Firebug

พบว่ามีการโหลดอะไรสักอย่างจากหมายเลขไอพี 119.46.196.23 ซึ่งตรวจดูแล้วจะเห็นว่าเป็นเครื่องของ True (เห็น asianet.co.th ไหมเล่า)

ทีนี้มันโหลดอะไรมา ก็ตามไปดู จะเห็นว่าเป็นวิดีโอข้อความ "This video has been removed due to term of use violation" นั่นเอง

นับว่าวิธีการปิดกั้นของ True นี้เหนือชั้นกว่าของ TOT เพราะแบบนี้จะเอาไปแปะใน Facebook ก็ไม่ได้ แต่ที่น่าเศร้าคือดันปิดอย่างแอบ ๆ พยายามเนียน ไม่ได้มีการแสดงข้อมูลว่าเป็นการปิดกั้นด้วยอำนาจใด คนที่ไม่ทันสังเกตก็อาจคิดว่า YouTube เป็นผู้เอาออก

ก็ไม่รู้ว่าประเทศเราลงทุนกับความพยายามควบคุมอินเทอร์เน็ตไปเท่าไรแล้ว ทั้งโดยรัฐและเอกชน ผมคิดว่าโคตรไม่คุ้มเลยนะ อย่างคลิปนี่ป่านนี้ก็คงมีคนเซฟเก็บไว้พร้อมที่จะอัปโหลดใหม่ได้ทุกเมื่อ เอาเข้าจริงคนที่อยากจะดูเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้นเนี่ย ใช้ proxy ที่มีเกลื่อนกลาดหรือเสียเงินเช่า VPN ไม่กี่บาทก็ดูได้สบายใจแล้ว เจ้าหน้าที่ก็นั่งพิมพ์ URL หน้าเว็บที่จะถูกปิดกั้นกันหัวยุ่งไปเถอะ บ้าไปแล้ว ปิดกันเป็นหมื่น ๆ URL เสียเวลาเสียเงินทองกันไปขนาดไหน

ทวิตธรรมนำทวิตเตอร์

ตัดตอนจากคำปรารภหนังสือ "ทวิตธรรมนำทวิตเตอร์" โดยทั่น ว. วชิรเมธี ตัวหนาตามโน้ตในเฟซบุคทั่น ว.

New Media หรือสื่อใหม่เกิดขึ้นทุกวัน
โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทุกวัน ทุกครึ่งวัน ทุกชั่วโมง หรือทุกนาที โลกเปลี่ยนเร็วเสียจนกระทั่งว่า แม้เราไม่อยาก เปลี่ยนแปลงตัวเองและวิถีชีวิตไปตามโลก แต่ทว่าก็จะถูกบีบให้ ต้องเปลี่ยนตามโดยอัตโนมัติเพราะเครื่องไม้เครื่องมือและ เทคโนโลยีต่างๆ ที่แวดล้อมเราอยู่ ถูกพัฒนาให้รุดไปข้างหน้า ตลอดเวลา
อยากจะตั้งเป็นข้อสังเกตว่า
โลกเปลี่ยนเข้าสู่ยุคใหม่ทันที เมื่อสตีฟ จ๊อปส์ ออก นวัตกรรมใหม่มาให้ชาวโลกใช้
ทวิตเตอร์ เป็นสื่อใหม่ของวันนี้ ที่มีผู้ใช้แพร่หลายไปทั่วโลก ข้อดีของทวิตเตอร์ก็คือ ความสดใหม่ ความเร็ว ความง่าย แต่ข้อจำกัดก็คือ ใช้ส่งข้อความได้อย่างจำกัดเพียง ๑๔๐ ตัวอักษร

ผมคงจะเป็นคนของยุคเก่า ตั้งแต่เกิดมานี่ไม่เคยครอบครองผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลเลยสักชิ้น ไอแพดอะไรนี่ไม่เคยแตะ เคยแต่จับ ๆ ไอโฟน แมคบุค ของเพื่อนแบบนับนาทีได้

โลกยุคใหม่ที่ทั่น ว. ว่าไว้ คงจะเป็นโลกที่คนซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องละสองหมื่นกว่าบาทได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก โลกยุคเก่าที่ผมติดอยู่นี่ (อยากเปลี่ยนยุค/ลุค นะ แต่ไม่มีเงิน) สตีฟ จ๊อบส์ (ชื่อเขาสะกดด้วยตัว b นะทั่น บ ใบไม้น่าจะใกล้เคียงกว่า) ไม่ได้ออกนวัตกรรมใหม่มาให้ใช้ แต่แม่ง เอ้ย เขาผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ราคาแพงหูฉี่มาขาย (เว้ย) ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนอะไรไปบ้างไหมนอกจากราคาหุ้นของบริษัทตัวเอง

ว่าแต่จากเรื่อง New Media (ในบริบทแปลก ๆ) แล้วกระโดดมาแอปเปิ้ล แล้วกระโดดไปทวิตเตอร์ในไม่กี่ย่อหน้าเนี่ย ต้องกราบคารวะจริง ๆ

ก็ไปโหลดหนังสือมาชาบูกันได้ตามสะดวก

ภาษาอังกฤษวันละคำ: irony

ตัดตอนจากบทความ "เราได้อะไรจากเรื่อง 'ฟิล์ม-แอนนี่'" หนังสือพิมพ์มติชน 1 ตุลาคม 2553 ตัวหนาโดยผมเอง

ด้าน พระมหาวุฒิชัย หรือท่าน "ว. วชิรเมธี" ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย บอกว่าสังคมไทยควรเรียนในกรณีนี้ 4 เรื่อง

  1. การวางตนของบุคคลสาธารณะ ซึ่งถูกคาดหวัง "มาตรฐานทางจริยธรรม" ที่สูงกว่าบุคคลทั่วไป ดังนั้น จึงควรใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังอยู่เสมอ อย่าทำลายชื่อเสียงของตนด้วยการเขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้า
  2. การมีความสัมพันธ์ ระหว่างชายหนุ่มหญิงสาวที่ดีนั้น ทุกความสัมพันธ์ต้องมาพร้อมกับ "ความรับผิดชอบเสมอ" เพราะหากไม่มีความรับผิดชอบ "สัมพันธภาพ" ก็จะกลายเป็น "สัมพันธพลาด" ที่นำความเสื่อมเสียมาสู่ผู้เกี่ยวข้องอย่างใหญ่หลวงเช่นที่ทุกฝ่ายกำลังเผชิญอยู่
  3. การให้อภัย เพราะแม้ทั้งสองฝ่ายจะทำในสิ่งซึ่งผิดพลาด แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นปุถุชนทุกคนย่อมมีโอกาสผิดพลาดกันได้ การตกเป็นข่าวคราวนี้ทำให้ทุกคนเจ็บปวดมากพอแล้ว สังคมไทยควรหยุดซ้ำเติม แต่ควรให้อภัย เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยวิจารณญาณที่รอบคอม ลึกซึ้งกว่านี้
  4. สำหรับคนที่ชอบ "แสดงความคิดเห็น" ในเรื่องของคนอื่นจนเป็นข่าวเกรียวกราว ก็ขอแนะนำว่า "ก่อนแสดงความคิดเห็นควรหาความรู้" เป็นพื้นฐานมาแล้วเป็นอย่างดี อย่ามีแต่ "ความเห็น" โดยไม่มี "ความรู้" เป็นองค์ประกอบ เพราะการแสดงความคิดเห็นอย่างมักง่าย ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเจ็บช้ำน้ำใจอย่างแสนสาหัส ทั้งยังทำให้เรื่องเล็ก ๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ หรือในบางกรณีก็ทำให้ความขัดแย้งลุกลามกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ทำให้คนจำนวนมากต้องพลอยเดือดร้อน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง: พระเจ้าตายแล้ว!

ลูกเสือไซเบอร์ พบปะแฟน ๆ

เข้าไปดูหน้าเฟซบุคของลูกเสือไซเบอร์ เพื่อติดตามข่าวกิจกรรม "ดี ๆ" ก็เจอ

cyber scout

ใครอยากร่วมกิจกรรมกับลูกเสือไซเบอร์ก็เชิญนะครับ แดรกบาร์นี่คืออะไรผมก็ไม่รู้แฮะ ดูรายละเอียดงานเอาละกัน

พระเจ้าตายแล้ว!

เซ็ง

เมื่อคืนเห็นใครไม่รู้อัปโหลดคลิปรายการชีพจรโลก ชุด Zen 2010 ตอนที่สัมภาษณ์พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ตอนที่พระทั่นบอกว่าเรอเน เดส์การ์ตส์ กล่าวว่า "พระเจ้าตายแล้ว" นั่นล่ะ ไอ้เราก็ดาวน์โหลดมา ตัดเหลือตอนประโยคนั้นพอดีจะได้ไม่ต้องเสียเวลาดูตอนต้น ๆ (เพราะการฆ่าเวลาบาปไม่น้อยกว่าการฆ่าคน) แล้วเอาใส่ยูทูบ ใส่บล็อก ถอดความเป็นข้อความ

"ประโยคนี้ไม่ใช่ของใหม่นะ เรอเน เดส์การ์ตส์ ก็เคยพูดไว้ ใช่มั้ย 'พระเจ้าตายแล้ว' [สุทธิชัย: ก็อด อิส เด๊ด!] ใช่มั้ยล่ะ เจริญพร"

เขียนอธิบาย

ไม่ใช่ครับ Friedich Nietzsche ต่างหาก ในหนังสือ Die fröhliche Wissenschaft

ใส่รูปประกอบด้วย

สุดท้ายนึกได้ว่า เอาวีดีโอเขามาตัดแล้วเผยแพร่งี้ น่าจะเสี่ยงต่อการละเมิดลิขสิทธิ์ เลยเลิก เซ็ง

นักข่าวกรุงเทพธุรกิจไม่รู้จัก บก. ลายจุด?

มีเพื่อนบอกให้ดูข่าวนี้

บก.ลายจุดเยี่ยมคนเสื้อแดงในเรือนจำอุดรฯ

กรุงเทพธุรกิจ

ก็ว่าทำไมหน้า บก. ลายจุดในข่าวนั้นไม่ค่อยคุ้น เลยลองถามกูเกิล

บก. ลายจุด

ก็คงพออนุมานได้ว่าคนเขียนข่าวไม่รู้จัก บก. ลายจุด ไม่งั้นก็ไม่รู้จักกูเกิล

มติชนออนไลน์มั่วนิ่ม?

สั้น ๆ กับข่าวนี้

ผกก. "เคซี แอฟเฟล็ค" ยอมรับสารคดี "วาควิน ฟีนิกซ์" เป็นเรื่องหลอกลวง

ในข่าวพูดถึงหนัง "แอม น็อต แธร์" เข้าใจว่าหมายถึงเรื่อง I'm Not There ที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับ Joaquin Phoenix เลย เพราะเป็นหนังเกี่ยวกับ Bob Dylan

ส่วนหนังเกี่ยวกับ Joaquin Phoenix มันคือ I'm Still Here ตะหากละเฟ้ยยยยยยย

บทเพลงแห่งความรักและภักดีต่อประเทศชาติ

วันก่อนอารมณ์ดี ไปซื้อนี่มาจากตรงบ้านเจ้าพระยา ราคาหนี่งร้อยบาท

We Love the King DVD - Cover

พอแกะดูข้างใน

We Love the King DVD - Inside

...

FFFFFFFFUUUUUUUUUUUUU

อารมณ์ขัน

ผมไม่สามารถอ้างได้ว่าผมเป็นคนตลก แต่ผมก็พยายามที่จะมีอารมณ์ขันในเรื่องต่าง ๆ และคิดว่าตัวเองค่อนข้างใจกว้างกับอารมณ์ขันของผู้อื่น บ่อยครั้งที่มุขตลกที่ผมเห็นว่าขำและไม่มีปัญหาอะไรกับมัน กลับกลายเป็นเรื่องแทบจะต้องห้ามสำหรับคนอื่น เช่น ศาสนา

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อโดยส่วนตัวว่ามีบางเรื่องที่ไม่น่านำมาล้อเล่น เท่าที่นึกออกตอนนี้ก็คือเรื่องความตายของคน กับศักดิ์ศรีของคน (ซึ่งจริง ๆ มันอาจจะเรียกว่าศักดิ์ศรีได้ไม่เต็มปากนัก แต่ตอนนี้นึกคำอื่นไม่ออก เอาเป็นว่ายึดจากตัวอย่างที่จะยกมาก็แล้วกัน)

ปัญหาของอารมณ์ขันพวกนี้ก็คือ บางมุขมันก็ขำจริง ๆ เคยอ่านผ่าน ๆ เจอมุขตลกเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเสธ. แดง และการเผาห้างสรรพสินค้า ก่อนที่จะรู้ตัวก็หัวเราะพรืดไปแล้ว แล้วก็รู้สึกผิดมากขึ้นเป็นลำดับ

เรื่อง เจเล่ เมื่อไม่นานมานี้ก็เช่นกัน ผมไม่เห็นว่าการที่คนที่ถูกหมายจับที่ขาดหลักฐานชัดเจนเรียกไปกักขังอยู่หลายวันต้องการแสดงการประท้วงต่อสิ่งที่เขาเห็นว่าไม่ยุติธรรม จะตลกตรงไหน ต้องขอบคุณโฆษก ศอฉ. ที่ปล่อยมุขเจ็บ ๆ ทำลายความพยายามในการต่อสู้และลดศักดิ์ศรีของคนออกมาให้ผมได้สัมผัสถึงความเศร้าที่เกิดจากอารมณ์ขัน

หมายเหตุ: ผมพยายามหาคำอธิบายกับตัวเองว่าแล้วทำไมถึงขำไปกับวิดีโอ "ฮิตเลอร์ซับนรก" เหล่านั้น ซึ่งก็ยังหาคำอธิบายชัด ๆ ไม่ได้ แต่ที่แน่ ๆ หลังจากดูหนังต้นฉบับ (The Downfall) แล้ว ผมขำอย่างมีความสุขกับบรรดาวิดีโอเหล่านั้นน้อยลงมาก

Subscribe to rant