วันนี้ได้ไปชมนิทรรศการศิลปะ "รอยยิ้มสยาม" มาครับ นิทรรศการนี้จัดที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ตรงข้ามมาบุญครอง ฝั่งโตคิว
เป็นครั้งแรกของผมที่ได้มาหอศิลป์แห่งนี้ จริง ๆ ก็เป็นเรื่องบังเอิญ เพราะตอนแรกตั้งใจมาเดินดูงาน Bangkok Design Festival 2008 แล้วลองเดินเข้ามาดูในหอศิลป์ เจอนิทรรศการนี้พอดี เรื่องความเป็นมาของหอศิลป์ก็ลองเข้าไปอ่านดูในเวบไซต์ของหอฯ นะครับ
มาถึงตัวนิทรรศการกันบ้าง พอขึ้นบันไดเลื่อนไปถึงชั้น 4 ปุ๊บ ก็เจอหุ่นตำรวจนี่ครับ
ฮาแปลก ๆ ดี ไม่รู้เกี่ยวกับนิทรรศการหรือเปล่า
จากนั้นก็ลงทะเบียนฝากของ แล้วก็เดินดูรอบ ๆ หูแว่วเสียงเพลง Smell Like Teen Spirit ของ Nirvana มาไกล ๆ
ภาพเขียน Super(m)art - Bangkok Survivor
มีอธิบายด้วย ละเอียดยิบ
เจองานของ วิสุทธิ์ พรนิมิต ผู้แต่ง hesheit และควันใต้หมวก เป็นการ์ตูนน่ารัก ๆ เปิดวนไปมา ข้าง ๆ มีภาพเรียงยาวตลอดผนังประมาณ 10 เมตร ลักษณะคล้ายแต่ละเฟรมของการ์ตูน (ที่เกี่ยวกับการวาดการ์ตูน)
ไม่รอช้า ขึ้นชั้นต่อไป ปรากฏว่าตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปห้ามถ่ายรูป จะเล่าสั้น ๆ ก็แล้วกันว่าเจออะไรบ้าง
ไปยืนอ่านคำอธิบายนิทรรศการก่อนเลยครับ (เขาเรียก หลักการและเหตุผล หรือเปล่า ฮ่าฮ่า) สรุปสั้น ๆ ได้ใจความว่ายิ้มสุวรรณภูมิ (ซึ่งรวมยิ้มสยาม ยิ้มเขมร ยิ้มลาว ฯลฯ) นี่เกิดจากความจำนนต่อธรรมชาติ เพราะแถบนี้เป็นเขตมรสุม ต้องยิ้มสู้ มองโลกในแง่ดี แล้วยิ้มสยามก็ทำให้เกิดผลงานศิลปะที่นำมาแสดงให้ชม
เดินดูป้ายผู้สนับสนุน พบว่ามีโลโก้ของ Drupal ด้วยแฮะ มาไงเนี่ย
ชั้นนี้เจองานเกี่ยวกับพุทธศาสนาเยอะ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องศิลปะเท่าไรเลยคิดว่าเจ๋งทุกงานเลย จะยกตัวอย่างที่ประทับใจ
- รูปเหมือนท่านพุทธทาสภิกขุ หล่อจากไฟเบอร์กลาส
- งานปั้นพระพุทธรูป ชื่อว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา" เข้าใจว่ายกมาจากดำรัสของพระพุทธเจ้า เป็นงานปั้นที่เจ๋งมาก องค์พระพุทธรูปปั้นจากเศษธนบัตร และแยกส่วนกันอยู่ คือ พระเศียร พระวรกาย และพระบาท ประเด็นอยู่ที่ว่าต้องดูจากด้านหน้าตรงเผง จึงจะเห็นเป็นพระพุทธรูปเต็มองค์ หากขยับตัวหรือเปลี่ยนมุม (เข้าใจว่าตีความได้ถึงการเสียสมาธิ) ก็จะเห็นพระพุทธรูปแยกออกจากกัน
- เศียรพระพุทธรูปที่ประกอบขึ้นมาจากไม้ขีดไฟ ชิ้นนี้ฝรั่งทำ ให้คำอธิบายไว้ว่าแทนความไม่จีรังของสิ่งต่าง ๆ แม้แต่สิ่งที่ต่ำต้อยก็สามารถสอนให้เห็นธรรมได้
- ภาพเขียนพระพุทธเจ้าของถวัลย์ ดัชนี เป็นภาพคนมีร่างเปลือย มีหัวสัตว์ต่าง ๆ อาสาสมัครนำชมงานข้าง ๆ บอกว่าภาพนี้เคยโดนกรีดทำลายเมื่อปี 2514 เนื่องจากมีคนบางกลุ่มไม่พอใจ หาว่าหมิ่นพุทธ พออ่านคำอธิบายพบว่าความหมายของร่างเปลือยที่ขัดกับเศียรก็คือ ความขัดแย้งระหว่าง โลกียะ (ปุถุชนทั่วไป) กับ โลกุตตระ (ผู้หลุดพ้น)
- งานปั้นพระพุทธรูปจากเศษธนบัตรอีกแล้ว เข้าใจว่าศิลปินคนเดียวกับชิ้นที่เพิ่งกล่าวถึงไปข้างต้น ชื่องานว่า "นั่ง(เงิน)" ท่าต่าง ๆ เป็นท่าที่ศิลปินคิดเอง (เต็มไปด้วยท่าแปลก ๆ เช่น มีเครื่องหมาย $ อยู่เหนือเศียร) มีข้อความธรรมะ (โดยศิลปินเอง) เขียนอยู่บนพระพุทธรูปด้วย เช่น "อุเบกหว่างขา" หรือ "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" (สำหรับข้อความนี้ พระพุทธรูปมีพระหฤทัย - หัวใจ - หลุดออกมา)
- ภาพเขียน "มารผจญ" โดยถวัลย์ ดัชนี เป็นภาพพระพุทธเจ้าหันพระพักตร์หนีไปจากคนดู มี "มาร" ยืนอยู่รอบ ๆ ที่เจ๋งก็คือ มารพวกนี้ประกอบด้วย คนเหล็ก (อาร์โนลด์นั่นเลย) แรมโบ้ บรูซลี แบตแมน และตัวละครร่วมสมัยอื่น ๆ
- หนังสั้น "ปางนรสิงหาวตาร" โดย วิศิษฏ์ ศาสน์เที่ยง ผู้กำกับ หมานคร (Citizen Dog) โคตรจะเจ๋ง ผมไปทันดูตอนที่พระอินทร์สู้กับยักษ์หิรัณยกศิปุ แล้วเหาะไปขอความช่วยเหลือจากพระนารายณ์ คิดว่าใช้คนเป็น ๆ แสดง แล้วใช้บลูสกรีนเพื่อใส่ฉากหลังจากคอมพิวเตอร์กราฟิก ทำออกมาได้เท่มาก ๆ ดูแฟนตาซีดีมาก
- งานภาพเขียน "นิรยกถา" โดยวสันต์ สิทธิเขตต์ แสดงบาปของอาชีพต่าง ๆ และโทษทัณฑ์ต่าง ๆ ในนรกที่ศิลปินนิยามขึ้นเอง เช่น ภาพ "บาปประชาชน" สำหรับประชาชนที่ยอมอ่อนข้อต่อผู้ปกครองอธรรม ยอมให้มีการโกงกิน ไม่ต่อสู้เรียกร้อง จะถูกตัด "ถัน-อัณฑะ-โยนี" เรียกแบบบ้าน ๆ ก็ "นม-ไข่-จิ๋ม" เพื่อไม่ให้สืบสกุล แล้วกลิ้งไปมาให้เกิดความเจ็บปวด
- ภาพ "พุทธบริษัท 4" โดยอนุพงษ์ จันทร (เจ้าของเดียวกับ "ภิกษุสันดานกา" ที่เป็นข่าวดังเมื่อปีที่แล้ว) เป็นภาพครึ่งคนครึ่งเปรตของพระ ชี ตำรวจ และผู้หญิง แสดงถึงผู้ที่ใช้ศาสนาบังหน้าในการทำบาป
ยังมีอีกเยอะ ไว้ต่อ + สรุปคราวหน้า ได้บทเรียนจากที่เขียนคราวที่แล้ว เพื่อนบอกว่ายาวเกินไป พาลไม่อ่านมันเสียอย่างนั้น ตัดเป็นตอน ๆ เผื่อจะน่าอ่านมากขึ้น (ถ้าอ่านหมดสองตอนมันก็ยาวเท่าเดิมล่ะวะ)
แต่คราวหน้าคงเป็นวันเสาร์ (18 ต.ค.) เพราะพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) ไปชะอำกับ สวทช. เป็นงานน่าสนใจอีกแล้ว จะมาเขียนให้อ่านกัน
- Log in to post comments