twitter

การ retweet อย่างฉลาด (ถ้าจะ retweet คุยกันให้ได้น่ะนะ!)

หากใครไม่รู้จัก twitter จงเข้าไปสมัคร แล้วมาฟอลโล่ว์ @tewson

หากใครไม่รู้จักการ retweet มันคือการส่งต่อข้อความที่เราพบจากคนที่เราฟอลโล่ว์อยู่ ไปให้คนที่ฟอลโล่ว์เราอยู่ เช่น

A ฟอลโล่ว์ B และ C อยู่

D และ E ฟอลโล่ว์ A อยู่ แต่ไม่ได้ฟอลโล่ว์ B และ C

B ทวีตว่า "ไฟไหม้อ่างเก็บน้ำที่ถนน x"

A เมื่อเห็นทวีตของ B อยากให้คนอื่นรู้ด้วย ก็เลยทวีตว่า "rt @B: ไฟไหม้อ่างเก็บน้ำที่ถนน X"

เท่านี้ D และ E ที่ฟอลโลว์ A อยู่ ก็จะเห็นข้อความ และทราบด้วยว่าใครเป็นต้นฉบับ

หากใครไม่รู้จักการ reply มันคือการตอบทวีตคนอื่น ในหน้าเว็บสามารถทำได้โดยกดปุ่ม reply แล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับ ข้อดีของการกดปุ่ม reply นั้นคือ ทวีตของเราที่ reply คนอื่นนั้น จะมีลิ้งค์ให้กดไปดูได้ว่า reply ข้อความอะไร

ทีนี้ ก็มีความนิยม (ที่ผมเห็นว่า) ประหลาด ๆ อยู่อย่างหนึ่ง ดังตัวอย่างนี้

C ทวีตว่า "@A ถึงไหนแล้วจ๊ะ"

แน่นอน D กับ E ไม่เห็นทวีตนี้ แต่แล้วเขาก็เห็น A ทวีตว่า

A: "rt @C: @A ถึงไหนแล้วจ๊ะ // ถึงบ้านแล้วจ้ะ คริคริ~"

ท่านคิดว่าจุดประสงค์ในทวีตของ A ข้างบนนี้คืออะไร

มองผ่าน ๆ ก็คงบอกได้ว่า อ๋อ A ก็จะตอบ C ไงว่าถึงบ้านแล้ว

แต่เดี๋ยวก่อน ถ้า A จะตอบ C เนี่ย ทำไมไม่ใช้ reply ล่ะ

อันนี้ก็สุดปัญญาที่ผมจะตอบ เหลือเพียงทางเลือกเดียวคือ A เนี่ย ต้องการให้คนที่ฟอลโล่ว์ตนเองอยู่ เห็นว่า A คุยกับ C

ซึ่งปัญญาอันตื้นเขินของผมก็มองไม่ค่อยเห็นว่าเพื่ออะไร (วะ)

แต่ไม่เป็นไรครับ นั่นไม่ใช่ประเด็นของเรื่องนี้ ใครจะอยากให้ใครเห็นว่าคุยกับใครก็ตามสบาย แต่ประเด็นคือ ถ้าคุณเห็นทวีตนี้

A: "rt @C: rt @A: rt @C: @A ถึงไหนแล้วจ๊ะ // ถึงบ้านแล้วจ้ะ คริคริ~ << โห ไวจัง หุหุ~ ... มีคนมาส่ง >//<"

ผมนับถือ A กับ C มากที่ยังคุยกันรู้เรื่องอยู่

อย่ากระนั้นเลย ผมมีวิธีง่าย ๆ ที่ดีกว่าในการคุยกับคนอื่นผ่านการ retweet มาเสนอ คือ ลองเปรียบเทียบ

A: "rt @C: @A ถึงไหนแล้วจ๊ะ // ถึงบ้านแล้วจ้ะ คริคริ~" (49 ตัวอักษร)

กับ

A: "ถึงบ้านแล้วจ้ะ คริคริ~ rt @C: @A ถึงไหนแล้วจ๊ะ" (46 ตัวอักษร)

ข้อดีที่เราเห็นทันทีคือ คนอื่นยังรู้ได้ว่า A ตอบ C (ไม่ว่าจะอยากรู้หรือไม่ก็ตาม) แถมยังประหยัดพื้นที่ไปถึง 3 ตัวอักษร!

หรือลองเปรียบเทียบ

A: "rt @C: rt @A: rt @C: @A ถึงไหนแล้วจ๊ะ // ถึงบ้านแล้วจ้ะ คริคริ~ << โห ไวจัง หุหุ~ ... มีคนมาส่ง >//<" (86 ตัวอักษร)

กับ

A: "มีคนมาส่ง >//< rt @C: โห ไวจัง หุหุ~ rt @A: ถึงบ้านแล้วจ้ะ คริคริ~ rt @C: @A ถึงไหนแล้วจ๊ะ" (76 ตัวอักษร)

โอ้จ๊อด มันประหยัดไปถึง 10 ตัวอักษร เหลือพื้นที่ไว้ให้คุยอวดชาวบ้านอีกเยอะแยะ หรือจะให้คนอื่นเข้ามาร่วมวงสนทนาอวดชาวบ้านก็ยังไหว

แถมยังเห็นลำดับของการสนทนาอย่างเป็นระเบียบด้วย ไม่ต้องมานั่งนึกว่าจะคั่นด้วยอะไรดี จะ // หรือ << หรือ .. แถมเยอะ ๆ เข้าก็ไม่รู้ว่าใครคั่นด้วยอะไร

ยังไงก็ฝากไว้พิจารณานะครับ ไอเดียง่าย ๆ เอาความคิดเห็นที่ใส่เพิ่มเข้าไปมาไว้ข้างหน้าแทนที่จะต่อท้าย เพราะยังไงด้านหน้าก็มีคำว่า rt คั่นให้อยู่แล้ว

ไอเดียนี้เห็นฝรั่งทำกัน เวลาที่เขาเจอทวีตเจ๋งๆ แล้วต้องการเผยแพร่แบบแทรกความเห็นเล็ก ๆ น้อย ๆ (แต่ไม่ใช่คุยกันนะ ครั้งเดียวจบ เช่น "อันนี้โคตรฮาเลยว่ะ rt @x: บลาบลาบลา")

ฝากไว้พิจารณาด้วยนะครับ ด้วยความหวังดี วิธีมันดีกว่าจริง ๆ ไม่รู้ว่าฝรั่งมันฉลาดหรือพวกเราหลงลืมกันไปเอง (แหม ก็เวลากด rt เนี่ย เคอร์เซ่อร์มันเลื่อนมาอยู่ท้ายข้อความพอดี พิมพ์ต่อได้เลย จะเสียเวลากด home ไปพิมพ์ด้านหน้าข้อความทำไมเนอะ หึหึ)

TwittBkk#2

พักนี้ฟุ้งซ่านเหลือเกิน เลยออกไปหาอะไรทำ แรกสุดก็นี่เลย

TwittBkk#2 รวมพลคนใช้ twitter ที่ร้าน Bug & Bee ศาลาแดง ไปถึงแล้วไม่ค่อยรู้จักใครเลยแฮะ โชคดีเจอ @klaikong เลยนั่งคุยด้วย

บรรยากาศเป็นการกินดื่มคุยกันเสียส่วนมาก และมี @sugree มานำเสนอการใช้ twitter API และไอเดียสำหรับคนที่อยากตั้ง startup ไปอ่านได้ที่นี่ Twitter API and Startup Ideas

ต่อด้วย @31o5 มาเสนอ TwitBots made in Japan คือพวกบอท (โปรแกรมอัตโนมัติ) ใน twitter มีทั้งที่มีประโยชน์ เช่น ช่วยจำ หาร้านอาหาร หรือแบบเน้นฮา เช่น เลียนแบบคำพูดคนดัง หรือลอกข้อความคนอื่น หรือแบบประหลาดไปเลยคือ สั่งให้มันตั้งเวลาอัดรายการโทรทัศน์ได้ แต่เราไม่ได้ดู มันดูเอง!?!

ต่อด้วย @atiz มาเสนอ InkPad อุปกรณ์ที่ "อยู่ระหว่าง netbook กับ iPhone" กล่าวคือเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้งานอินเทอร์เนท หน้าจอสัมผัส ไม่มีแป้นพิมพ์ ขนาดราว 10 นิ้ว น่าสนใจดี แต่ฟังราคาแล้วแอบแพง ลองดูใน twitter ของเขาละกัน

จบงาน ถ้าบรรยายสั้นไป (และไม่มีรูป เพราะส่งกล้องเพื่อนไปซ่อมอยู่) ก็ขออภัย ต้องรีบไปธุระ เดี๋ยวมาต่อด้วยโครงการละคร "อ่าน(เรื่อง)รัก" โดย พระจันทร์เสี้ยวการละคร ที่สถาบันปรีดี พนมยงค์

Subscribe to twitter